การประกันภัยรถยนต์นั้นสามารถแบ่งออกไปเป็นสองประเภทใหญ่ได้แก่

การประกันภัยรถยนต์นั้นสามารถแบ่งออกไปเป็นสองประเภทใหญ่ได้แก่

1.การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับซึ่งอย่างที่ชื่อได้บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า “บังคับ” นั่นหมายความว่าบุคคลที่เป็นเจ้าของรถยนต์ทุกคัน ทุกชนิดนั้นจะต้องจัดทำการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับนี้ โดยหากบุคคลที่มีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของรถยนต์ผู้ใดไม่จัดทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับให้กับรถยนต์ของท่านจะมีความผิดตามกฎหมาย นอกจากนั้นท่านยังจะไม่สามารถลงทะเบียนรถยนต์และชำระภาษีรถยนต์ประจำปีที่กรมการขนส่งทางบกได้ ทำให้ท่านจะต้องโทษในกรณีละเลยการชำระภาษีรถยนต์ประจำปีเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นท่านจึงไม่ควรละเลยในการจัดทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับนี้ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องและจะได้ไม่ต้องมีประวัติการกระทำผิดใดๆ ซึ่งอาจจะส่งผลเสียในอนาคตต่อไปได้ ท่านสามารถหาซื้อบริการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับนี้ได้จากบริษัทประกันภัยรถยนต์หรือบริษัทตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการประเภทประกันภัยรถ

2.การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจซึ่งอย่างที่ชื่อได้บอกอย่างชัดเจนอีกเช่นกัน “สมัครใจ” นั่นหมายความว่าบุคคลที่เป็นเจ้าของรถยนต์ทุกคัน ทุกชนิดนั้นสามารถเลือกสรรการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจที่มีคุณสมบัติต่างๆตรงตามที่ท่านต้องการมากที่สุดได้ โดยการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนี้มีคุณสมบัติต่างๆให้ท่านได้เลือกพิจารณามากมาย ทั้งขอบเขตของการประกันภัยรถยนต์ที่ท่านจะได้รับความคุ้มครองทั้งหมด จำนวนเงินเอาประกันภัยรถยนต์ที่ท่านจะได้รับเป็นค่าชดเชยความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งกับตัวท่านเอง คนรอบข้างของท่านและบุคคลอื่นๆที่มีอาการบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์การใช้รถยนต์ที่ท่านทำให้เกิดผลของความเสียหายขึ้น และจำนวนเงินที่ท่านจะต้องจ่ายเพื่อเป็นค่ารับบริการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจที่ท่านต้องการรับความคุ้มครองต่างๆ ซึ่งประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจต่างๆนั้นจะมีคุณสมบัติสามข้อที่กล่าวไปมากน้อยแตกต่างกันไปตามแต่ละผู้ให้บริการประกันภัยรถยนต์ต่างๆที่ท่านสามารถหาซื้อบริการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนี้ได้จากบริษัทประกันภัยรถยนต์หรือบริษัทตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการประเภทประกันภัยรถ เมื่อท่านมีความสนใจในประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนี้แล้วหาข้อมูลเพิ่มเติมก็จะพบว่าการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนั้นสามารถแบ่งแยกย่อยออกมาได้อีกสามชนิดใหญ่ๆได้แก่การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจชั้นหนึ่ง การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจชั้นสอง และการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจชั้นสาม โดยมีการประกันภัยรถยนต์ชนิดพิเศษอีกชนิดหนึ่งได้แก่การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแบบบวกซึ่งจะได้พบเห็นควบคู่ไปกับการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจชั้นสองและสาม

เฝ้าระวังคุณภาพปลาแซลมอน

ปัจจุบันคนไทยนิยมบริโภคเนื้อปลาโดยเฉพาะเนื้อปลาแซลมอนทั้งในรูปนำมาปรุงให้สุกและในรูปของปลาดิบที่รู้จักกันดีในนามของซาซิมิ เมื่อมีการสื่อสารกันในสังคมการสื่อสารยุคใหม่เกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยในการบริโภคเนื้อปลาแซลมอน จนทำให้ผู้บริโภคเกิดความกังวล และไม่สบายใจ โดยเฉพาะผู้ที่นิยมบริโภคปลาชนิดนี้ กรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ โดย สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร จึงได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เฝ้าระวังความปลอดภัยมาตลอด

โดยการตรวจวิเคราะห์ปริมาณโลหะหนัก 3 ชนิด ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะมีการปนเปื้อน คือ ปรอท ตะกั่ว และแคดเมียม ในเนื้อปลาแซลมอนที่นำเข้าตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 จนถึงปัจจุบัน โดยการตรวจหาปริมาณปรอท ในเนื้อปลาแซลมอน จำนวน 78 ตัวอย่าง ตรวจพบ 46 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 59 ปริมาณที่พบตั้งแต่น้อยกว่า 0.01-0.04 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และตรวจหาปริมาณตะกั่ว จำนวน 62 ตัวอย่าง ตรวจพบ 5 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 8 ปริมาณที่พบน้อยกว่า 0.10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมทุกตัวอย่าง ในส่วนของการตรวจหาปริมาณแคดเมียม จำนวน 153 ตัวอย่าง ตรวจพบ 3 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 2 โดยปริมาณที่พบตั้งแต่น้อยกว่า 0.02-0.12 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งปริมาณโลหะหนักทั้ง 3 ชนิด ที่ตรวจพบมีปริมาณต่ำมากและไม่เกินค่าที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 98 (พ.ศ. 2529) เรื่องมาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อน

ในส่วนของซาซิมินั้น ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน พ.ศ. 2556 ได้สุ่มเก็บตัวอย่างอาหารญี่ปุ่นเมนูซาชิมิ ที่ทำจากปลาทะเลดิบจากภัตตาคาร/ร้านอาหารญี่ปุ่น จำนวน 32 ร้าน จากซูเปอร์มาร์เก็ต 10 แห่ง และมินิมาร์ท 1 แห่งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล(นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) รวมทั้งหมด 52 ตัวอย่าง แยกเป็นตัวอย่าง ที่เก็บจากภัตตาคาร/ร้านอาหารญี่ปุ่น จำนวน 34 ตัวอย่าง และจากซูเปอร์ มาร์เก็ตและมินิมาร์ท จำนวน 18 ตัวอย่าง นำมาตรวจวิเคราะห์หาการปนเปื้อนของจุลินทรีย์และพยาธิตัวกลม

สำหรับข้อแนะนำการบริโภคปลาดิบและการเลือกซื้อปลาทะเลที่แล่ขายนั้น ผู้บริโภคควรเลือกรับประทานปลาทะเลดิบที่จำหน่ายในภัตตาคาร/ร้านอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับหรือร้านที่มั่นใจว่าใช้ปลาดิบที่เป็นsashimi-grade หรือ sushi-grade fish ซึ่งเป็นปลาทะเลที่เตรียมเพื่อการบริโภคดิบอย่างปลอดภัยหรือมีโอกาสพบพยาธิตัวกลม กลุ่มอนิสซาคิสน้อยมาก ในกรณีที่ซื้อเนื้อปลาทะเลที่แล่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อมารับประทานเป็นปลาดิบ ควรสอบถามแหล่งที่มาของปลา (ถ้าผู้จำหน่ายให้ข้อมูลได้) ควรเลือกปลาที่เตรียมแบบ sashimi grade หรือ sushi grade เช่นกัน และเป็นปลาดิบที่แล่แล้ว (แล่เป็นก้อนหรือสไลซ์เป็นชิ้นบางพอคำ) เพื่อจำหน่ายสำหรับการบริโภคเป็นซาชิมิเท่านั้น และบรรจุในภาชนะที่ปิดเรียบร้อย เช่น ถาดที่มีแผ่นฟิล์มพลาสติกหุ้มมิดชิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียต่างๆ

ปลาแซลมอนเป็นปลาที่มีเนื้อบริสุทธิ์ตามธรรมชาติในท้องทะเล

20

แซลมอนเป็นปลาทะเลที่มีวงจรชีวิตอยู่ในน้ำจืด เนื่องจากจะต้องว่ายน้ำเข้ามายังแม่น้ำเพื่อวางไข่และผสมพันธุ์ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว โดยจะเลือกแหล่งน้ำที่มีปริมาณออกซิเจนสูงเพื่อให้ไข่นั้นมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี โดยในช่วงฤดูผสมพันธุ์นั้นตัวเมียจะว่ายทวนน้ำเข้ามาเพื่อขุดรังที่พื้นโดยใช้หางของตัวเองเป็นเครื่องมือในการขุด จากนั้นจะวางไข่ลงไปในหลุมเพื่อรอให้ตัวผู้มาปล่อยเชื้ออสุจิปฏิสนธิกับไข่ หลังจากนั้นจะใช้หางของตัวเองกลบไข่เพื่อไม่ให้กระแสน้ำไหลพัดพาไป การเจริญของแซลมอนจะมีอยู่ 3 ระยะได้แก่ Fry ลูกอ่อนที่มีขนาดเล็ก, Parr ลูกปลาแซลมอนที่มีแถบสีดำอยู่ข้างลำตัว และ Smolts ลูกปลาแซลมอนในวัยที่จะออกจากแหล่งน้ำจืดและมุ่งสู่น้ำทะเล ลูกแซลมอนที่ฟักตัวออกจากไข่ในระยะแรกจะทำความคุ้นเคยและใช้ชีวิตอยู่กับกระแสน้ำจืดสักพัก ก่อนที่จะรวมตัวกันว่ายคืนกลับสู่ท้องทะเลในช่วงฤดูร้อน เพื่อหาแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์กว่าและรอวันที่จะกลับมาวางไข่อีกครั้งเพื่อโตเต็มวัย

นักวิทยาศาสตร์เคยทำวิจัยเกี่ยวกับปลาแซลมอนพบว่ามีปลาแซลมอนเพียงประมาณ 10% เท่านั้นที่กลับมาวางไข่ยังแหล่งน้ำจืดที่เดิม ส่วนที่เหลือมักจะสูญหายในทะเลโดยไม่ทราบสาเหตุ ปลาแซลมอนจัดว่าเป็นปลาที่มีความจำกลิ่นดีมากๆ เมื่อมันเจริญเติบโตจนเข้าสู่ช่วงฤดูผสมพันธุ์ได้ มันจะกลับไปวางไข่ในแหล่งน้ำที่เดิมที่ๆ มันเคยถูกฟักตัวโดยอาศัยการจำกลิ่นตั้งแต่ตอนที่มันเกิดมา สารประกอบของกลิ่นนั้นเป็น สารอินทรีย์ระเหยและคุณสมบัติทางเคมียังไม่ทราบแน่ชัด ขณะนี้ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ว่า ปลาแซลมอนหาทางมายังปากน้ำได้อย่างไรโดยไม่มีเครื่องหมายใดๆ ในการนำทางมาจากทะเล การทดลองล่าสุดได้ให้ข้อคิดว่า ปลาตัวเต็มวัยได้รับการชักนำจากปรากฏการบนท้องฟ้าเช่น มีดวงดาวเป็นเครื่องนำทางหรือทิศทางหรือตำแหน่งของดวงอาทิตย์เป็นต้นในกรณีนี้ปลาแซลมอนจะมีความสามารถในการจับเวลาเสมือนหนึ่งเป็น นาฬิกาชีวภาพ ดังที่พบในสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

ปลาแซลมอนจัดว่าเป็นปลาที่มีเนื้อบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนอยู่ปริมาณมากและหาซื้อได้ไม่ยาก แต่เนื้อปลาแซลมอนมักจะมีราคาแพง เนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย โดยเฉพาะ โปรตีน และ โอเมก้า 3 ที่ประกอบด้วย ALA, DHA และ EPA มีส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงสมองและการทำงานของโครงสร้างอื่นๆ ในร่างกาย ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะรู้จักแซลมอนกันในนาม ปลาดิบ หรือ ซาซิมิ แต่สำหรับในปัจจุบันแล้วมีเมนูอาหารหลากหลาชที่ทำจากแซลมอนมากมาย โดยใช้หัวปลา เนื้อปลา ท้องปลา กระดูก ไข่ปลา และส่วนอื่นๆ ตามแต่ที่เชฟหรือผู้ประกอบอาหารจะคัดสรรมานำเสนอ นอกจากคุณค่าทางโภชนาการแล้ว แซลมอนยังจัดว่าเป็นอาหารที่ทานแล้วทำให้สุขภาพดีควบคู่ไปกับอารมณ์ที่ดีอีกด้วย ที่สำคัญคอเรสเตอรอลนั้นต่ำมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

การเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนนั้นมีในหลายประเทศทางยุโรปเหนือซึ่งมีมาตรฐานการควบคุมการเลี้ยงตามกฎของอียู

21

ก่อนหน้านี้เคยมีการพูดถึงปลาแซลมอนในแง่มุมของคุณประโยชน์ที่แท้จริงจากปลาแซลมอน ในยุคนี้ว่าประโยชน์เหล่านั้น ยังมีจริงอยู่หรื ด้วยการชี้ให้เห็นว่าปลาแซลมอนที่เราบริโภคกันอยู่ในปัจจุบัน ล้วนมาจากแซลมอนที่ถูกเลี้ยงจากฟาร์ม ไม่ใช่จากธรรมชาติที่แท้จริงและอุตสาหกรรมการเลี้ยงแซลมอนนั้นผ่านการใช้สารเคมีเพื่อเร่งให้เนื้อปลามีสีสดดูน่ารับประทานอีกทั้งยังเต็มไปด้วยเชื้อโรคหลายอย่าง การเลี้ยงปลาแซลมอนจึงต้องพึ่งการใช้สารเคมีเพื่อกำจัดนอกจากนั้น ยังมีคำกล่าวว่าทั้งหมดนี้ อาจส่งผลให้การกินปลาแซลมอนที่มาจากฟาร์มเลี้ยงก่อสารมะเร็งให้แก่ผู้บริโภคจนกลายเป็นที่พูดถึง ถึงความอันตรายต่อการกินปลาแซลมอนที่ผู้รักสุขภาพหลายคนหันมาเลือกบริโภคกันเยอะในปัจจุบัน

ปลาแซลมอนที่ส่งมาขายบ้านเราส่วนใหญ่มาจากฟาร์มเลี้ยงปลาในยุโรป ปลาแซลมอนเหล่านี้อุดมไปด้วยเชื้อโรค เจ้าของฟาร์มจึงต้องใส่สารเคมีและยาปฏิชีวนะลงในบ่อปลา เพื่อกำจัดแมลงรบกวนและเชื้อโรคหลายอย่างปลาแซลมอนในธรรมชาติมีเนื้อเป็นสีชมพูเพราะมันกินพวกกุ้งตัวเล็กๆ และพืชทะเล ปลาแซลมอนในฟาร์มก็มีเนื้อสีชมพูน่ากินเช่นกัน แต่เป็นเพราะมันกินอาหารปลาที่มีสารให้สีจำพวก astaxanthin และ canthaxanthin ชนิดเข้มข้น ซึ่งหากมนุษย์ได้รับสารเหล่านี้มากเกินไปอาจจะมีผลต่อระบบประสาทตานอกจากนี้เนื้อของปลาแซลมอนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังยังอุดมไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัว ซึ่งมีผลต่อการอุดตันของเส้นเลือดแถมยังมีกรดไขมันโอเมกา-3 น้อยกว่าปลาแซลมอนในธรรมชาติถึง 3 เท่า ดังนั้นหากบริโภคแซลมอนจากฟาร์มเหล่านี้มากเกินไปก็อาจส่งผลให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดได้ในสหรัฐอเมริกายังมีการวิจัยพบว่าเนื้อปลาแซลมอนจากฟาร์มเลี้ยงมีสารก่อมะเร็งที่มาจากอาหารปลาในระดับที่สูงกว่าปลาแซลมอนจากธรรมชาติถึง 16 เท่า มากกว่าเนื้อวัว 4 เท่า ไม่นับรวมว่าปลาแซลมอนบางตัวมีพยาธิทะเลอาศัยอยู่ด้วย

ปลาแซลมอนที่ขายกันมีทั้งที่เป็นปลาจับจากทะเลธรรมชาติและที่เป็นปลาเลี้ยงในฟาร์มเปิดในทะเลอีกทีหนึ่ง ปลาจับนั้นมีราคาแพงกว่าปลาเลี้ยงมากๆ  แต่ก็มีรสชาติดีกว่าด้วยเพราะสามารถว่ายน้ำได้เป็นระยะทางไกลจึงมีไขมันในเนื้อไม่มากเท่าปลาเลี้ยงการเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนนั้นมีในหลายประเทศทางยุโรปเหนือซึ่งมีมาตรฐานการควบคุมการเลี้ยงตามกฎของอียูให้ออกมาใกล้เคียงกับธรรมชาติถูกตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎอียูทุกๆ อย่าง รวมถึงการควบคุมการใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมีต่าง ๆ ด้วย ซึ่งข้อดีของการเพาะเลี้ยงก็คือลดการทำลายพันธุ์ปลาตามธรรมชาติแซลมอนได้ชื่อว่าเป็นปลาจากแหล่งบริสุทธิ์ที่ไร้มลพิษและมีคุณค่ามากมายเพราะระหว่างที่อยู่ในทะเล แซลมอนจะสะสมไขมันจากการกินแพลงตอนและสาหร่ายทะเลซึ่งเป็นไขมันจำเป็นที่ร่างกายมนุษย์ต้องการแต่สร้างขึ้นเองไม่ได้นั่นคือกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่เรียกว่าโอเมกา-3 ซึ่งมีประโยชน์มากมายต่อมนุษย์

ภูมิแพ้เป็นรคที่ฮิตที่คนเมืองเป็นกันมาก

โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่พบมากขึ้นทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ปัจจุบันคาดการณ์ว่ามีคนไทยมากกว่า 18 ล้านคน เป็นโรคภูมิแพ้ ในจำนวนนี้กว่า 10 ล้านคน เป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูก โดยร้อยละ 20 พบในผู้ใหญ่ และร้อยละ 40 พบในเด็ก ส่วนอีกกว่า 5 ล้านคน เป็นโรคหืด

ภูมิแพ้เป็นรคที่ฮิตที่คนเมืองเป็นกันมาก

ภูมิแพ้เป็นรคที่ฮิตที่คนเมืองเป็นกันมาก

โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้บางอย่าง และภูมิต้านทานผู้นั้นตอบสนองผิดไปจากคนทั่วไป ทำให้เกิดโรคและอาการต่างๆ เช่น คนทั่วไปที่สูดฝุ่นละอองภายในบ้าน ซึ่งมีไรฝุ่นจะไม่เกิดอาการผิดปกติ แต่ถ้าผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น สูดเอาฝุ่นละอองเข้าไปจะเกิดอาการน้ำมูกไหล คันจมูก คันตา หรือมีอาการหอบ เป็นต้น การที่พบโรคภูมิแพ้ของระบบการหายใจเพิ่มขึ้นในประเทศไทย เพราะวิถีของคนไทยเปลี่ยนไป จากการอยู่อาศัยตามไร่นา พบปะกับเชื้อโรคในดิน คอกสัตว์ ทำให้ภูมิต้านทานแข็งแรง แต่เมื่อเปลี่ยนไปอยู่ในเมือง มีสุขอนามัยที่ดีทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ เพราะที่พักอาศัยเพดานเตี้ย ใช้พรม ซึ่งเป็นแหล่งสะสมไรฝุ่น เลี้ยงสุนัข แมวในบ้าน ทำให้พบปะกับสารก่อภูมิแพ้มากขึ้น นอกจากนี้ มีปัจจัยอื่นมาร่วมด้วย เช่น มลพิษในอากาศ ฝุ่นละอองในถนน ควันจากท่อรถยนต์ และจากโรงงานอุตสาหกรรม และควันบุหรี่” พญ.เอวริน กล่าวและว่า สารก่อภูมิแพ้ 5 อย่าง ที่พบบ่อย ได้แก่ 1.ไรฝุ่น 2.แมลงสาบ 3.เกสรหญ้า 4.เชื้อรา และ 5.สัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว ฯลฯ

หากมีอาการบ่งชี้ 3 ข้อ คือ เป็นหวัด คัดจมูกเรื้อรัง นานกว่า 1 เดือน ไอ หอบ หรือหายใจมีเสียง เรื้อรังนานกว่า 1 เดือน หรือเป็นผื่นคันเรื้อรังนานกว่า 1 เดือน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย โดยแพทย์จะทำการทดสอบสารก่อภูมิแพ้ แบบ Skin Test ซึ่งเป็นการทดสอบทางผิวหนัง ว่า มีปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ตัวใด เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงและจัดการกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยา

ขณะนี้โรคดังกล่าวมีวัคซีนป้องกัน โดยโรคภูมิแพ้ชนิดที่เหมาะกับการฉีดวัคซีน เช่น เยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ มีอาการคันตา เคืองตา น้ำตาไหล ตาสู้แสงไม่ได้ โรคหอบหืดที่มีสาเหตุจากภูมิแพ้ที่สามารถควบคุมอาการของโรคได้ดีแล้ว โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง ฯลฯ ทั้งนี้สามารถฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.nakhunclinic.com

การกินปลาแซลมอนให้ปลอดภัย

ขณะที่อาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมมาเป็นสิบปีแล้วในบ้านเรา วัฒนธรรมการกินปลาดิบในเมืองไทยก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ บางคนชอบกินมาก ขณะที่หลาย ๆ คนก็ไม่กล้ากิน หรือลองแล้วยังไม่ชอบ แต่ทำไมคนญี่ปุ่นถึงได้ชอบทานปลาดิบกันจังเลย ปลาดิบมีดียังไง? มาดูกัน!

เชื่อกันว่า…ปลาทะเลเขตหนาวแห่งมหาสมุทรแอตแลนติก หรือแถวอลาสก้าของประเทศสหรัฐอเมริกานั้นจะมีโอเมกา 3 มากกว่าในเขตร้อน โดยเฉพาะปลาแซลมอนยอดฮิตจัดว่าเป็นปลาที่มีโอเมกา 3 สูงกว่าปลาทะเลอื่น ๆ ดังนั้น การกินปลาแซลมอน จะทำให้…

ลดคอเรสเตอรอลและไขมัน ที่ชอบสะสมตามผนังหลอดเลือด สาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ และหลอดเลือด
ชะลอการปวดบวม ของอาการกล้ามเนื้ออักเสบและโรครูมาตอยด์
ลดการเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งบางชนิด
ลดความดันโลหิต และเมื่อรับประทานแซลมอนเป็นประจำ กรด DHA จะสามารถช่วยพัฒนาสมอง สายตา ความจำและการเรียนรู้ ได้ดี
ช่วยอาการซึมเศร้า ซึ่งมีผลมาจากสมอง
ช่วยลดอาการเย็นของมือและเท้า ในผู้ป่วยโรคเรย์นอค

กินปลาดิบให้ปลอดภัย

ควรซื้อจากร้านอาหารที่ไว้ใจได้เท่านั้น ว่าสะอาดปลอดภัย
เมื่อซื้อมาทานที่บ้านต้องเก็บไว้ในช่องแช่แข็งและเก็บได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์
เพื่อให้มั่นใจว่าปรสิตในเนื้อปลาถูกทำลายแล้ว ต้องเก็บในอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส
นานอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ขึ้นไป
ควรรับประทานปลาดิบให้หมดภายในเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากทำเสร็จ เพราะนอกจากจะเสียรสชาติแล้ว
ยังไม่ได้คุณค่าทางอาหารที่ควรได้อีกด้วย
การละลายน้ำแข็งจากช่องแช่แข็ง ควรนำออกมาวงทิ้งไว้ให้ละลายเอง อย่าแช่น้ำให้เสียรสชาติ
หรือเข้าไมโครเวฟช่วยละลาย จะทำให้เสียคุณค่าทางโภชนาการ
หั่นเนื้อปลาเมื่อยังแข็งอยู่ จะหั่นได้ง่ายและสวยงามกว่า

เพื่อให้เข้าถึงศิลปในการกินปลาดิบ ก็ควรรับประทานกันให้ถูกต้องและได้รสชาติอย่างแท้จริงด้วยค่ะ ส่วนคนที่ไม่ชอบทานปลาดิบ ก็สามารถรับประทานปลาสุกแทน ยังไงก็ได้คุณค่าทางโภชนาการด้วยเหมือนกันถึงจะไม่ใช่แซลมอน แต่เมืองไทยเรามีปลาทะเลมาให้เลือกทานอยู่มากมาย ใครชอบทานปลาชนิดไหนก็เลือกกันได้จากทะเลไทยเลยค่ะ

เคล็ดในการเลือกซื้อและทำอาหารด้วยแซลมอน

ถ้าพูดถึงอาหารญี่ปุ่น ก็คงเป็นเมนูอาหารที่ติดปากเหล่านักชิมชาวไทยมาหลายปี และอาหารญี่ปุ่นนั้นยังมีประโยชน์กับสุขภาพของเราค่อนข้างมากด้วย เพราะส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นปลาทะเลน้ำลึก และอาหารทะเล ซึ่งเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นแหล่งที่ให้โปรตีนที่ดีกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นเพราะมีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายคือ โอเมก้า 3 ซึ่งมีส่วนช่วยลดอัตราการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

ปลาแซลมอน เป็นปลาอีกชนิดที่ได้รับความนิยม เพราะเนื้อปลามีรสชาติหวานและไม่มีกลิ่นคาว แต่! ปลาแซลมอนที่ขายตามห้างสรรพสินค้าโดยทั่วไปนั้นเป็นแซลมอนที่ผ่านการรมควันมาแล้ว เพราะไม่ต้องการให้เนื้อปลาเน่าเสียง่าย และให้เนื้อปลามีสีที่น่ารับประทาน ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ รวมถึงช่วยคงรูปของเนื้อปลาให้อยู่ได้นานขึ้นอีกด้วย

ปลาแซลมอนนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งมีเนื้อมาก ใช้ทำอาหารได้ง่าย อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพของหัวใจ เนื่องจากในแซลมอนนั้นอุดมไปด้วยโอเมกา 3 รู้อย่างนี้แล้ว ลองซื้อแซลมอนทั้งชิ้นแล้วลองนำไปย่าง อบ ทอด หรือเคี่ยว ทั้งแบบติดหนัง หรือจะแบบลอกหนังออกก็ได้ อร่อยไม่แพ้กัน

โดยทั่วไปแล้ว แซลมอนมีด้วยกัน 2 ประเภท คือแซลมอนจากมหาสมุทแอทแลนติค และแซลมอนจากมหาสมุทรแปซิฟิค ซึ่งความแตกต่างที่สำคัญที่สุดก็คือแซลมอนจากแอทแลนติคนั้น เป็นแซลมอนที่เพาะเลี้ยงในฟาร์ม ส่วนแซลมอนจากแปซิฟิคเป็นแซลมอนตามธรรมชาติ ซึ่งคุณจะสามารถหาซื้อแซลมอนแอทแลนติคได้ตลอดทั้งปี (บางครั้งก็เรียกว่าแซลมอนจากนอร์เวย์ เพราะมาจากแหล่งเพาะเลี้ยงที่นั่น) ซึ่งในเรื่องของคุณภาพนั้น ถือว่าค่อนข้างดี เนื่องจากแซลมอนที่เลี้ยงในฟาร์มนั้นสามารถนำมาผ่านกระบวนการและส่งขายได้ภายใน 24 ชั่วโมง ภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

สำหรับแซลมอนจากแปซิฟิคนั้น มี 5 สายพันธุ์ ได้แก่ คิง (หรือที่เรียกว่าชินุค), โคโฮ,
ซอคอาย (หรือแซลมอนแดง), ชัม และแซลมอนชมพู ซึ่งพันธุ์ปลาแซลมอนธรรมชาติเหล่านี้ มักจะหาซื้อได้ในช่วงฤดูร้อน ฉะนั้น ขอให้แน่ใจในการคัดสรรความสด เนื่องจากปลาจากแหล่งธรรมชาติเหล่านี้ถูกจับขึ้นจากน้ำมานานกว่าและในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมไม่ได้

ปลาที่คล้ายๆ กันได้แก่ ปลาอาร์กติกชาร์ (Arctic char) และปลาเทร้าท์หัวเหล็ก (steelhead trout) ทั้งนี้ เนื้อปลาอื่นๆ เช่น ปลากะพงลาย ปลาดาบ และปลาทูน่า ก็มักนำมาใช้ทดแทนปลาแซลมอนได้

ปลาแซลมอนกับเคล็ดลับหน้าใส

ปลาแซลมอนเป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางแถบอเมริกาเหนือ ไซบีเรีย อลาสกา ยุโรปและเอเชียเหนือ รวมถึงเอเชียตะวันออกอย่างญี่ปุ่นด้วย ปลาแซลมอนผสมพันธุ์ในน้ำจืดแต่ใช้ชีวิตในมหาสมุทร ถือว่าเป็นปลาน้ำกร่อย ปลาแซลมอนวางไข่ในฤดูฝนและฤดูหนาวโดยการว่ายน้ำทวนกระแสขึ้นมาวางไข่ทางเหนือที่มีอากาศหนาวเย็น ดังนั้นปลาแซลมอนจึงเป็นปลาที่มีโปรตีนสูงและแข็งแรงมาก โดยปลาแซลมอนจะประกอบไปด้วยกรดไขมัน ที่ชื่อว่า โอเมก้า 3 ซึ่งสารดังกล่าวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก และจากการวิจัย พบว่า การรับประทานปลาแซลมอน จะช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น แลดูอ่อนกว่าวัย และยังมีส่วนในการช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดอีกด้วย นี่ก็คือเคล็ดลับของสาวญี่ปุ่น ที่หน้าใส ผิวพรรณดี
นอกจากนี้ DNA ของไข่ปลาแซลมอน ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน บำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้นแก่ เซลล์ชั้นผิวหนังแท้ เพื่อลดริ้วรอย กระชับรูขุมขนบนผิวหน้าให้เรียบเนียน เต่งตึง เนียนนุ่ม ทั้งนี้สารสกัดจากไข่ปลาแซลมอน เป็นโครงสร้างหลักสำคัญของชั้นผิวช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่ชั้นหนังแท้ และเร่งซ่อมแซมเนื้อเยื้อในร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เซลล์ผิวหนังอุ้มน้ำได้ดี ผิวพรรณจึงดูอ่อนเยาว์กระชับเต่งตึง ใช้บำรุงผิวชะลอความแก่ เพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิว ทำให้ผิวชั้นนอกนุ่มตึงเรียบขึ้น ดันร่องผิวให้ตื้นขึ้น จึงลบรอยเหี่ยวย่นลงได้
วิธีเลือกเนื้อปลาแซลมอน ประกอบด้วย
1.เลือกเนื้อปลาที่มีสีส้ม เนื้อปลาไม่บอบช้ำ เพราะนอกจากไม่น่ากินแล้ว จะมีกลิ่นคาวรุนแรง เนื่องจากเลือดในเนื้อปลาที่ไหลซึมออกมา ยิ่งเลือดซึมออกมามากเท่าไร ปลายิ่งมีกลิ่นคาวมากขึ้นเท่านั้น
2.หากบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกแช่แข็งให้ดูวันผลิตและวันหมดอายุ พร้อมทั้งแหล่งผลิตหรือบริษัทนำเข้าที่ต้องระบุไว้อย่างชัดเจน โดยการละลายน้ำแข็งมีหลายวิธี เช่น วางเนื้อปลาแช่แข็งทั้งถุงในตู้เย็นช่องธรรมดา วางที่อุณหภูมิห้องนาน 3-4 ชั่วโมง หรือวางถุงลงในอ่างน้ำ อย่าให้น้ำในอ่างซึมเข้าเนื้อปลาเด็ดขาด หั่นเนื้อปลาให้เป็นชิ้นสวยโดยหั่นเป็นชิ้นยาวตามกล้ามเนื้อปลา เนื้อปลาที่นำมาละลายน้ำแข็งแล้วไม่ควรนำกลับไปแช่แข็งใหม่ เพราะคุณภาพเนื้อปลาจะด้อยลง
สำหรับปลาแซลมอนที่ถือเป็นอาหารยอดฮิตของหลายต่อหลายคนด้วยความที่เนื้อปลาแซลมอนนั้น อร่อยมากและมีคุณค่าทางอาหารสูงอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกาย เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 EPA DHA โปรตีน วิตามิน A วิตามิน B รวมแคลเซียม ทั้งแร่ธาตุต่างๆ อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวพรรณดูสดใสและยังช่วยในการบำรุงสมองได้ดีอีกด้วย

เทคโนโลยีในการดัดแปรพันธุกรรมปลาแซลมอนหรือจีเอ็มโอ


เอฟดีเอรับรองความปลอดภัย ปลาแซลมอนพันธุ์ใหม่ที่เอกชนในสหรัฐฯ พัฒนาขึ้น โตเร็วกว่าแซลมอลธรรมชาติสองเท่าแต่คุณค่าทางอาหารไม่แตกต่างเตรียมจัดประชุมสาธารณะหาข้อสรุปก่อนผลิตสู่ตลาดด้านองค์กรไม่แสวงหากำไรคัดค้านพร้อมเรียกร้องให้ศึกษาระดับคลินิกทดสอบผลข้างเคียงต่อสุขภาพคนบริโภค

ปลาแซลมอนดัดแปรพันธุกรรมหรือจีเอ็มโอ (GMO) ที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้มีชื่อทางการค้าว่า “แอดเวนเทจ แซลมอน” (AquAdvantage salmon) ที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคนิคทางพันธุวิศวกรรมโดยอะควา เบาที เทคโนโลจีส์ อิงค์ (Aqua Bounty Technologies Inc.) มีคุณสมบัติโตเร็วเป็น2เท่าของปลาแซลมอนแอตแลนติกโดยทั่วไป

ปลาแซลมอนดัดแปลงพันธุกรรม (แซลมอน GM) ที่มีลักษณะการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว หรือที่มีชื่อเรียกว่า AquAdvantage ของบริษัท AquaBounty สำหรับการอนุญาตให้เลี้ยงปลาแซลมอน GM ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัตว์ GM ชนิดแรกที่จะได้รับอนุญาตเพื่อใช้เป็นอาหารของมนุษย์นั้น FDA ยังต้องใช้เวลาในการพิจารณาถึงความปลอดภัยอีกระยะ หนึ่ง ในปจั จุบัน สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม หรือ GMOs เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งกันมากในประเทศสหรัฐฯ นัก วิจารณ์หลายท่านได้กล่าวว่า เทคโนโลยี GMOs และเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อมนุษย์และ สิ่งแวดล้อม ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนมีความเห็นว่าเทคโนโลยี GMOs มีความจำเป็นสำหรับการเพิ่มแหล่งอาหารให้กับโลก จากข้อโต้แย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้การรับรองความปลอดภัยปลาแซลมอน GM ชนิดแรกโดย FDA นำไปสู่ข้อสงสัย และข้อวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการเกษตรเป็นเวลาอีกหลายปีข้างหน้า

ข้อเสนอของ Michael Hansen มีจุดประสงค์เพื่อต้องการให้ FDA หาวิธีการตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติมหรือมีประสิทธิภาพมาก ยิ่งขึ้นใน 3 ด้านที่สำคัญ คือ การก่อให้เกิดภูมิแพ้ ผลกระทบจากฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต และการเปลี่ยนแปลงของ growth factor ชนิด IGF-1 เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยสูงสุดจากการรับประทานปลาแซลมอน GM เนื่องจากเขา มีข้อสงสัยถึงผลการสรุปการประเมินความปลอดภัยของปลาแซลมอน GM

การพิจารณาอนุญาตให้บริษัท AquaBounty ซึ่งเป็นผู้เพาะเลี้ยงปลาแซลมอน GM อย่างเป็นการค้าที่มีชื่อว่า AquAdvantage ต้องขยายเวลาการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดออกไปอีก 2-3 ปี เพื่อสร้างความ มัน่ ใจให้กับผู้บริโภค และหาวิธีการที่เป็นมาตรฐานในการตรวจสอบสัตว์ดัดแปลงพันธุกรรมชนิดอื่นๆที่จะได้รับอนุญาตให้ เลี้ยงเพื่อใช้เป็นอาหารของมนุษย์ในอนาคตต่อไป

ปลาแซลมอนกับประโยชน์ทางโภชนาการจเพื่อสุขภาพที่ดี


หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมปลาแซลมอนถึงหายากนั่นคงเป็นเพราะแซลมอนมีชีวิตที่ไม่ธรรมดา ถึงแม้ว่าแซลมอนจะเป็นปลาทะเลในเขตหนาวจัด (Cold-Water Fish) ก็จริง แต่เมื่อถึงเวลาที่จะให้กำเนิดแซลมอนรุ่นใหม่แล้ว มันจะต้องว่ายทวนกระแสน้ำจากท้องทะเล กระโดดข้ามเกาะแก่งมากมาย เพื่อกลับขึ้นไปวางไข่ในแหล่งน้ำบริสุทธิ์ที่ตัวเองเกิด ซึ่งบรรพบุรุษของแซลมอนแต่ละตัวได้เลือกเอาไว้แล้วเท่านั้น และต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่า 1 เดือนเป็นระยะทางไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร โดยไม่ได้กินอาหารเลย แต่จะใช้ไขมันที่สะสมในช่วงที่มีชีวิตอยู่ในท้องทะเลมาหล่อเลี้ยงชีวิตใน ช่วงนั้น ดังนั้นกว่าจะถึงจุดหมายจะสูญเสียน้ำหนักไปมากถึง 40%ปลาแซลมอนกับประโยชน์ทางโภชนาการ

แซลมอน (Salmon) เป็นปลาทะเลที่มีวงจรชีวิตอยู่ในน้ำจืด เนื่องจากจะต้องว่ายน้ำเข้ามายังแม่น้ำเพื่อวางไข่และผสมพันธุ์ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว โดยจะเลือกแหล่งน้ำที่มีปริมาณออกซิเจนสูงเพื่อให้ไข่นั้นมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี โดยในช่วงฤดูผสมพันธุ์นั้นตัวเมียจะว่ายทวนน้ำเข้ามาเพื่อขุดรังที่พื้นโดยใช้หางของตัวเองเป็นเครื่องมือในการขุด จากนั้นจะวางไข่ลงไปในหลุมเพื่อรอให้ตัวผู้มาปล่อยเชื้ออสุจิปฏิสนธิกับไข่ หลังจากนั้นจะใช้หางของตัวเองกลบไข่เพื่อไม่ให้กระแสน้ำไหลพัดพาไป การเจริญของแซลมอนจะมีอยู่ 3 ระยะได้แก่ Fry ลูกอ่อนที่มีขนาดเล็ก, Parr ลูกปลาแซลมอนที่มีแถบสีดำอยู่ข้างลำตัว และ Smolts ลูกปลาแซลมอนในวัยที่จะออกจากแหล่งน้ำจืดและมุ่งสู่น้ำทะเล ลูกแซลมอนที่ฟักตัวออกจากไข่ในระยะแรกจะทำความคุ้นเคยและใช้ชีวิตอยู่กับกระแสน้ำจืดสักพัก ก่อนที่จะรวมตัวกันว่ายคืนกลับสู่ท้องทะเลในช่วงฤดูร้อน เพื่อหาแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์กว่าและรอวันที่จะกลับมาวางไข่อีกครั้งเพื่อโตเต็มวัย

นักวิทยาศาสตร์เคยทำวิจัยเกี่ยวกับปลาแซลมอนพบว่ามีปลาแซลมอนเพียงประมาณ 10% เท่านั้นที่กลับมาวางไข่ยังแหล่งน้ำจืดที่เดิม ส่วนที่เหลือมักจะสูญหายในทะเลโดยไม่ทราบสาเหตุ ปลาแซลมอนจัดว่าเป็นปลาที่มีความจำกลิ่นดีมากๆ เมื่อมันเจริญเติบโตจนเข้าสู่ช่วงฤดูผสมพันธุ์ได้ มันจะกลับไปวางไข่ในแหล่งน้ำที่เดิมที่ๆ มันเคยถูกฟักตัวโดยอาศัยการจำกลิ่นตั้งแต่ตอนที่มันเกิดมา สารประกอบของกลิ่นนั้นเป็น สารอินทรีย์ระเหย (volatile organic substance) และคุณสมบัติทางเคมียังไม่ทราบแน่ชัด ขณะนี้ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ว่า ปลาแซลมอนหาทางมายังปากน้ำได้อย่างไรโดยไม่มีเครื่องหมายใดๆ ในการนำทางมาจากทะเล การทดลองล่าสุดได้ให้ข้อคิดว่า ปลาตัวเต็มวัยได้รับการชักนำจากปรากฏการบนท้องฟ้าเช่น มีดวงดาวเป็นเครื่องนำทางหรือทิศทางหรือตำแหน่งของดวงอาทิตย์เป็นต้นในกรณีนี้ปลาแซลมอนจะมีความสามารถในการจับเวลาเสมือนหนึ่งเป็น นาฬิกาชีวภาพ (biological clock) ดังที่พบในสิ่งมีชิวิตอื่นๆ

ปลาแซลมอนนั้นเป็นอาหารจากธรรมชาติที่มีคุณค่าสูงมาก อุดมไปด้วยวิตามินดี และโอเมก้า 3 และยังมีกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยลดคลอเรสเตอรอล บำรุงหัวใจ ช่วยให้ผิวพรรณดี แก้โรคไขข้อ ช่วยลดน้ำหนักและบำรุงสมอง อีกทั้งยังย่อยช้าซึ่งทำให้คุณอิ่มได้นานขึ้น ถือเป็นสุดยอดอาหารแคลลอรี่ต่ำได้เลย

ปลาแซลมอน ปลาที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์

“ปลาแซลมอน” จัดเป็นปลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งในหมู่ คนไทยและชาวญี่ปุ่น นิยมนำมาทำทั้งซูซิและซาชิมิ เพราะนอกจากจะมีรสชาติที่ถูกปากแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ปลาแซลมอน ที่ดีต้องมีลักษณะผิวสีส้มสลับกับสีชมพูอ่อนๆ มีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวทั่วถึง ไม่แห้ง ปลาแซลมอนจะแบ่งออกเป็นปลาแซลมอนที่เลี้ยงในฟาร์มและปลาแซลมอนที่จับได้เองตามธรรมชาติ โดยแหล่ง ปลาแซลมอนที่สำคัญของโลก มีอยู่ 2 แหลง่ ใหญๆ่ ก็คือ มหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า Atlantic Salmon และ Pacific Salmon ซึ่งเป็นปลาแซลมอนสายพันธุ์เดียวกันแต่มาจากกระแสน้ำที่ต่างกัน ขณะที่ปลาแซลมอนเลี้ยงนั้นที่เป็นที่นิยมก็ได้แก่ ปลาแซลมอนจากฟาร์มในประเทศนอร์เวย์ที่บ้านเราเรียกว่า

“นอร์วีเจียนแซลมอน” (Norwegian Salmon) เนื่องจากนอร์เวย์มีอากาศที่เหมาะสมกับการทำฟาร์มปลา จึงเรียกปลาแซลมอนตามแหล่งที่ผลิต เช่นเดียวกับ “สกอตตชิแซลมอน” (Scottish Salmon) ซงึ่ เปน็ ปลาแซลมอนที่เลี้ยงในสกอตแลนด์ โดยความแตกต่างระหว่างสกอตติชและนอร์วีเจียนแซลมอนนั้นอยู่ที่ราคาเป็นอย่างแรก สกอตติช แซลมอนจะมีราคาแพงกว่า นอร์วีเจียนแซลมอน เพราะเนื้อมีไขมันเยอะกว่าจึงมีรสชาติที่อร่อยกว่า และหวานมันกว่า ขณะที่นอร์วีเจียนแซลมอนนั้นราคาย่อมเยากว่าและสีของเนื้อปลาจะออกเป็นสีพีช อมชมพู ส่วนสกปตติชแซลมอนสีจะเป็นสีอมส้ม

โดยทั่วไปแล้วปลาแซลมอนเป็นปลาที่มีไขมันเยอะแต่เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เพราะเป็นศูนย์รวมของโปรตีน ชนิดที่มีโปรตีนต่ำ มีโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์มากๆ ต่อการทำงานของสมอง ซึ่งโอเมกา้ 3 นี้ร่างกายไมสามารถสกัด ได้เองเราจึงต้องการสารนี้เพื่อให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น ปลาแซลมอนยังมีวิตามินดีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เสริมสร้างแคลเซียม และฟอสฟอรัสให้แก่ร่างกาย อีกทั้งยังมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการต่อต้านการเกิดเนื้องอกต่างๆในร่างกายอีกด้วย ที่สำคัญ ไม่เฉพาะแต่เนื้อปลาแซลมอน เท่านั้นแต่ไข่ปลาแซลมอนยังมีรสชาติอร่อยและมัน แถมยังมีประโยชน์แก่ร่า่งกายไม่แ่พ้เ้นื้อปลาเลยทีเดียว

แซลมอนสายพันธุ์ไหนที่อร่อยที่สุดในโลก

ปลาแซลมอน เป็นปลาที่มีวิถีชีวิตอันแปลกประหลาด เนื่องจากปลาแซลมอนเป็นปลาที่กำเนิดเกิดขึ้นในน้ำจืด แต่จะใช้ชีวิตและเจริญเติบโตในน้ำเค็ม ที่สำคัญมีพฤติกรรมการดำรงชีวิตและการสืบพันธุ์ต่างจากปลาทั่วไป เพราะปลาแซลมอนอาศัยอยู่ในน้ำเค็มเป็นหลัก แต่ในฤดูวางไข่ปลาแซลมอนจะว่ายทวนกระแสน้ำไปเพื่อผสมพันธุ์ในน้ำจืด ไม่ว่าสายน้ำจะเชี่ยวกราดขนาดไหนก็ตาม ปลาแซลมอนก็ไม่ย่อท้อ จะใช้หางอันทรงพลังตวัดแหวกว่ายทวนน้ำไปยังถิ่นกำเนิดของมัน เพื่อวางไข่ให้สำเร็จจนได้ เมื่อกิจกรรมผสมพันธุ์และวางไข่สำเร็จเสร็จสิ้น ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะตาย ส่วนลูกปลาที่ฟักออกมาจากไข่ก็จะว่ายน้ำออกสู่ทะเล และเมื่อปลาแซลมอนโตเต็มวัยจนถึงเวลาวางไข่ ก็จะอพยพกลับไปวางไข่ที่ถิ่นกำเนิด โดยการตามกลิ่นของสายน้ำในความทรงจำ เหมือนกับพ่อและแม่ของมัน ซึ่งถือเป็นการเดินทางครั้งสำคัญครั้งเดียวของชีวิตปลาแซลมอน โดยลักษณะของปลาแซลมอนโดยทั่วไปตามลำตัวจะมีสีเงินแวววาว มีจุดที่บริเวณด้านบน บางชนิดอาจมีสีแดงบริเวณด้านข้างหรือท้องแล้วแต่สายพันธุ์

โดยทั่วไปแล้วปลาแซลมอนจะมีทั้งหมด 5 สายพันธุ์ ดังนี้

1. Chinook Salmon มีขนาดใหญ่ที่สุด มีจุดสีดำตามบริเวณ สีข้างด้านบน และหาง จะโตเต็มที่เมื่ออายุได้ 4 ปี
2. Sockeye Salmon เป็นปลา Salmon ชนิดที่มีรสชาติอร่อยที่สุด และราคาแพงที่สุดขนาด ไม่ใหญ่มาก
3. Pink Salmon ลักษณะที่โดดเด่นคือ จะมีกระดูกสันหลังที่โค้งงอมากกว่าซัลมอนชนิดอื่นและมีขนาดเล็กมีอายุเพียง 2 ปี
4. Chum Salmon มีลักษณะคล้าย Pink Salmon แต่ขนาดจะใหญ่กว่ามีลักษณะเหมือนกับสุนัขและมีขนาดใหญ่ใช้ขับไล่ตัวผู้ตัวอื่นในการหาคู่
5. Coho Salmon มีขนาดปานกลาง และลักษณะจะคล้ายกับปลา Chinook Salmon แต่จะมีขนาดเล็กกว่าผิวมีสีเงิน สีเงินนี้จะดึงดูดให้มัน เป็นเหยื่อของปลา Anglers

ประโยชน์ในการกินปลาแซลมอน

– ลดคอเรสเตอรอลและไขมันที่ชอบสะสมตามผนังหลอดเลือด สาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด
– ชะลอการปวดบวมของอาการกล้ามเนื้ออักเสบและโรครูมาตอยด์
– ลดการเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งบางชนิด
– ลดความดันโลหิต และเมื่อรับประทานแซลมอนเป็นประจำ กรด DHA จะสามารถช่วยพัฒนาสมอง สายตา ความจำและการเรียนรู้ได้ดี
– ช่วยอาการซึมเศร้า ซึ่งมีผลมาจากสมอง
– ช่วยลดอาการเย็นของมือและเท้าในผู้ป่วยโรคเรย์นอค

คุณประโยชน์จาก รกปลาแซลมอน

ถ้าพูดถึง “รก” สาวๆ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับครีมรกแกะที่ใช้บำรุงผิวหน้าและเป็นผลิตภัณฑ์อันเลื่องชื่อของประเทศออสเตรเลียกันล่ะสิคะ แต่จะมีสาวๆ กี่คนกันที่เคยได้ยินชื่อของ “รกปลาแซลมอน” นั่นแน่ะ สงสัยกันแล้วล่ะสิคะ ว่าปลาแซลมอนที่ออกลูกเป็นไข่นั้นจะมี “รก” ออกมาได้อย่างไร วันนี้มีคำตอบพร้อมสรรพคุณที่มีประโยชน์มากมายมาแนะนำสาวๆ กันค่ะ

PLACENTA หรือที่เราเรียกกันว่ารกเนี่ย อันที่จริงแล้วมนุษย์เรารู้จักใช้เพื่อความงามมามากกว่า 2000 ปีแล้วนะคะ จากหลักฐานทีปรากฎตามที่ต่างๆ ทั่วโลก และในญี่ปุ่นเองก็ค้นพบหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่ามีการใช้รกเพื่อประโยชน์ในการรักษาและดูแลร่างกายของเรามาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นได้ว่ามนุษย์เรารู้ัจักและยอมรับในพลังอันมหัศจรรย์ของรกกันมาเนิ่นนานแล้วค่ะ

ในปัจจุบันนี้มีการค้นพบและวิจัยสรรพคุณเกี่ยวกับรกมากมายจนได้ข้อสรุปกันแล้วค่ะว่า ในรกนั้นมีสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณมากมาย มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายและสารสำคัญ ที่เรียกว่า “GROWTH FACTOR” มากกว่า 8000 ชนิด ซึ่งสารต่างๆ ที่ประกอบอยู่ในรกเนี่ย คุณสมบัติเด่นๆ ของมันคือช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายให้ดีขึ้น ในขณะที่เรานอนหลับสารสำคัญเรานี้ก็จะทำหน้าที่บำรุงผิวเราให้เปล่งปลั่งด้วยนะคะ การใช้รกเพื่อดูและสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวนั้น มีทั้งในรูปแบบครีมทาบำรุงผิว สกัดเป็นเครื่องดื่มและแบบแคปซูลซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างมากในต่างประเทศ รกส่วนใหญ่ที่นำมาใช้นั้นมักจะมาจาก แกะ หมู และม้า ค่ะ

แต่ทว่าในขณะนี้ ประเทศญี่ปุ่นได้ค้นพบวิทยาการใหม่ๆในการสกัดรกจากปลาเป็นครั้งแรก โดยได้สกัดขึ้นจาก”รังไข่”ของปลาแซลมอนหรือที่เรียกว่า “Salmon Ovary Peptide (SOP)” ที่มีคุณประโยชน์มากมาย จากผลการวิจัยพบว่า ถ้าเทียบน้ำหนักต่อกรัมแล้ว รกจากปลาแซลมอนจะให้คุณค่าและสรรพคุณมากกว่ารกจากสัตว์ชนิดอื่นๆ อยู่มากทีเดียว และได้รับการยอมรับจากทั่วโลกแล้วว่า รกของปลาแซลมอนนั้นมีคุรประโยชน์และสารอาหารต่างๆ ใกล้เคียงกับสิ่งที่ร่างกายมนุษย์ต้องการมากที่สุด